กิจกรรมจิตศึกษา "บัตรแนะนำตนเอง"

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านโพนงามเกี้ยงเก่า

     เป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับนักเรียนชั้น ป.4 ในทุกๆสัปดาห์ ที่นักเรียนจะต้องมารอเรียนตั้งแต่เวลา 10.00 น. ซึ่งการมานั่งรอนั้นก็จะสร้างความวุ่นวายให้กับห้องเรียนรอบข้าง เพราะนักเรียนชั้น ป.4 จะมานั่งรออยู่บริเวณหน้าห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่งเสียงรบกวน ห้องอื่นๆ บางคนเดินไปส่องห้องภาษาอังกฤษที เดินวนมาส่องห้องคอมพิวเตอร์ที ทำให้ห้องที่เรียนอยู่เสียสมาธิ

     ครูเอจึงหากิจกรรมให้นักเรียนชั้น ป.4 ได้ปฏิบัติ เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้ไปก่อกวนห้องเรียนอื่นๆ โดยใช้กิจกรรมว่า "บัตรแนะนำตนเอง"

วิธีการ : ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรียนเขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเองลงไปในกระดาษ โดยให้นักเรียนออกแบบรูปแบบของบัตรแนะนำตนเอง ด้วยตัวเอง ไม่ได้ระบุว่าจะต้องประกอบไปด้วยข้อมูลอะไรบ้าง แต่โจทย์ที่ครูให้ก็คือ "ทำบัตรแนะนำตนเอง เพื่อให้บุคคลที่ไม่รู้จักเราอ่านแล้วสามารถรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา"

ระหว่างการปฏิบัติกิจกรรม : นักเรียนทุกคนต่างตั้งใจทำชิ้นงานของตนเอง บางคนเขียนหนังสือไม่เก่งก็ทำเป็นภาพประกอบมา ผลงานของนักเรียนแตกต่างกันออกไป บางคนเขียนน้อย บางคนเขียนมาก ตามความสมัครใจของแต่ละคน

สรุปกิจกรรม : กิจกรรมนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ นักเรียนทุกคนมีผลงานของตนเอง และไม่สร้างความวุ่นวายให้กับห้องเรียนอื่นๆ ที่กำลังทำการเรียนการสอน หลังจากทุกคนทำชิ้นงานตนเองเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาสำหรับการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเริ่มต้นเรียนเรื่อง การใช้งาน E-mail ครูเอได้สุ่มให้นักเรียนออกมาหน้าชั้นเรียนเพื่อโชว์ผลงานของตนเองให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชม ซึ่งนักเรียนที่ออกมาหน้าชั้นเรียนก็ยังแสดงอาการเขินอายอยู่ แต่ก็สามารถสร้างสีสันให้กับห้องเรียนก่อนเรียนได้เป็นอย่างดี

        ครูเอขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียน 
        วันนี้ครูเอมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก ขอกล่าวอ้างถึงบทเรียนในวันนี้นิดหน่อยนะคะ คือ วันนี้ครูเอตั้งใจจะให้นักเรียนสมัครอีเมลล์ ด้วยตนเอง โดยที่ให้นักเรียนทำเองในทุกขั้นตอน แต่ผลที่ครูเอคาดหวังไว้ในตอนแรก คือ เพียงแค่ให้นักเรียนรู้จักการกรอกข้อมูล ไม่ได้คาดหวังถึงความสำเร็จว่านักเรียนจะสามารถสมัครจนครบทุกขั้นตอนได้ด้วยตนเอง แต่ผลที่ได้เกินความคาดหวังมาก เพราะจากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 15 คน มีนักเรียนถึง 8 คน ที่สามารถสมัครอีเมลล์ได้เอง ครบทุกขั้นตอน และอีก 7 คน เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายคือ ขั้นตอนการยืนยันผ่านเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งถือว่านักเรียนทำได้ดีมาก ในวันนี้จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆค่ะ
        แต่ในช่วงที่เรียนบทเรียนเรื่อง E-mail ก็มีบ้างที่นักเรียนได้ส่งเสียงดัง ครูเอจึงใช้วิธีการเก็บเด็กด้วยการให้นักเรียนร้องเพลง "ความเกรงใจ" พร้อมกับทำท่าทางประกอบ โดยให้นักเรียนทำทั้ง 2 แบบ คือทั้ง แบบมีเสียงและแบบไม่มีเสียง หลังจากทุกคนมีสมาธิกลับมาสู่บทเรียน ครูเอก็ได้อธิบายถึงเนื้อเพลง และสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนจากบทเพลงที่ร้อง ทำให้นักเรียนสงบลง และกลับมาสู่ขั้นตอนการเรียนต่อไปได้ บรรยากาศในห้องเรียนก็น่าเรียนก็รู้สึกสบาย และผ่อนคลาย

       จากการเรียนมาทั้ง 2 สัปดาห์ ครูเอรับรู้ถึงความรู้สึกที่ดีขึ้นในห้องเรียน แตกต่างจากครั้งก่อนๆ ที่บรรยากาศจะตึงเครียด อาจเป็นผลจากหลายปัจจัย ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ ตัวของครูเอเอง รับรู้ได้ถึง ความใจเย็นลง และสอนแบบผ่อนคลายไม่เครียด และพฤติกรรมของนักเรียนในเทอมนี้ดีขึ้น จากการที่เราได้สร้างสมาธิให้นักเรียนก่อนเรียน และมีการกระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น ทำให้รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ดีขึ้นในชั้นเรียน ทำให้ทั้งผู้เรียนและผู้สอนมีเจตคติที่ดีในการเรียนการสอน